กล้วยไม้สกุลสิงโตกลอกตา มีชื่อเรียกเป็นภาษาวิทยาศาสตร์ว่าสกุล "บัลโบฟิลลัม" (Bulbophyllum) ซึ่งมาจากคำภาษากรีซ 2 คำ มีความหมายว่า "หัว" (หมายถึงลำลูกกล้วย) กับ "ใบ" สำหรับในภาษาไทย ที่เรียกกันว่า "สิงห์โตกลอกตา" นั้น เจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิตได้ทรงเรียบเรียงไว้ในหนังสือ "ตำราเล่นกล้วยไม้" เมื่อปี พ.ศ. 2459 เกี่ยวกับรูปร่างลักษณะของกล้วยไม้สกุลเซอร์โรเพตาลัม (Cirrhopetalum) ซึ่งเป็นสกุลที่มีลักษณะใกล้เคียงกับสกุลบัลโบฟิลลัมมาก และในปัจจุบันนี้ นักพฤกษศาสตร์ได้จัดรวมไว้ในสกุลบัลโบฟิลลัม ดังนี้ ลูกกล้วยรูปกลมมักเล็กขนากผลพุทรา บางชนิดเขื่องกว่านั้น แลบางชนิดใบยาวตั้งคืบก็ไ ด้มีใบลูกกล้วยละ 1 ใบ สีเขียวแก่ด้าน ๆ ดอกลำพังตัวกลีบนอกสองข้างนั้นใหญ่ยาวเกินส่วน รวบปลายแหลมแลพับเบื้องโคนกลีบทบไปข้างหน้า ปลายกลีบซ้อนกันฤๅมาประสานติดกัน ทำนองห่มสะไบคล้องคอ ปากเล็กเกือบแลไม่เห็น แลรังเกสรกระดิกได้เป็นดอกไม้ไหว ซึ่งเป็นเหตุ ให้เรียกกันในนี้ว่า "สิงห์โตกลอกตา" | |
สิงห์โตเหลือง (Bulbophyllum vaginatum (Lindl.) Rcgb.f.) ลำลูกกล้วยทรงรูปไข่ เป็นเหลี่ยม ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างลำต่อลำ 3-5 เซนติเมตร ลำลูกกล้วยมีใบเดียว ใบหนาแข็ง ยาวประมาณ 12 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2.5 เซนติเมตร ขอบใบทั้งสองข้างเกือบขนานกัน ปลายใบป้านแยกเป็น 2 แฉกเล็ก ๆ ก้านใบสั้นก้านช่อยาว ประมาณ 10 เซนติเมตร มีกาบที่ก้านช่อหลายกาบ ในช่อดอก ช่อหนึ่ง ๆ จะมีดอกประมาณ 15 ดอก เกิดเป็นกระจุก ดอกมีสีเหลืองอ่อน ๆ กลีบนอกบนยาวประมาณ 9มิลลิเมตร กลีบนอกคู่ล่างยาว 4-7 เซนติเมตร ขอบของกลีบนอกคู่ล่าง เชื่อมติดกันเป็นระยะสั้น ๆ ตอนใกล้ฐานของกลีบ ปล่อยให้ปลาย กลีบยาวเรียวคล้ายหาง 2 หาง ขอบของกลีบดอกทุกกลีบบางตอน มีขนสั้น ๆ กลีบในยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร และปากยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร กล้วยไม้ชนิดนี้พบทางภาคใต้ของไทย เช่น ที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และนราธิวาส ดอกบานในช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ | |
สิงห์โตพัดแดง (Bulbophyllum lepidum (BI.) J.J. Sm.) สิงโตพัดแดงพบตามธรรมชาติในทั่วทุกภาคของประเทศ เช่น ที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง สกลนคร ชัยภูมิ จันทบุรี สุราษฎร์ธานี ระนองและกระบี่ลำลูกกล้วยของสิงห์โตพัดแดงเป็น รูปไข่ยาว 1.5 เซนติเมตรลำลูกกล้วยห่างกันประมาณ 2-3 เซนติเมตร ใบยาว 16 เซนติเมตร กว้าง 3-6 เซนติเมตร ปลายใบป้าน ฐานใบเรียว ก้านช่อยาวประมาณ 20 เซนติเมตร มีดอก 7-10 ดอก กลีบนอกบนยาว ประมาณ 8 มิลลิเมตร งองุ้ม สีเหลือง ขอบของกลีบนอกบนมีขนสีม่วง กลีบนอกคู่ล่างยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 4 มิลลิเมตร ค่อย ๆ เรียวจากกลางกลีบไปหาปลายกลีบ ซึ่งมีลักษณะป้าน ขอบบนของกลีบนอกคู่ล่างเชื่อมติดกัน ตั้งแต่ปลายกลีบ่จนเกือบถึงฐานของกลีบ พื้นของกลีบสีครีม อาบด้วยสีม่วงปนชมพูตั้งแต่ปลายกลีบไปหาฐานของกลีบ กลีบในยาว 5-6 มิลลิเมตร ปลายกลีบแคบ ขอบเป็นขนสั้น ๆ ปากสีน้ำตาลอมเขียวทึบ ๆ เส้าเกสรสีเขียวอ่อนประด้วย จุดสีม่วง ฤดูดอกบานประมาณเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม | |
บัลโบฟิลลัม ลาซิโอชิลัม (Bulbophyllum lasiochilum Par. & Rchb. f.) บัลโบฟิลลัม ลาซิโอชิลัม เป็นกล้วยไม้ไทยสกุล สิงห์โตกลอกตาอีกชนิดหนึ่งที่ยังไม่มีชื่อเรียกในภาษาไทย กล้วยไม้ชนิดนี้ปรากฏตามธรรมชาติอยู่ในป่าทุกภาคของไทย เช่น ที่จังหวัดเชียงใหม่ นครราชสีมา กาญจนบุรี ชุมพร นครศรีธรรมราช และระนอง ดอกจะบานในช่วงเดือนตุลาคม ถึงธันวาคมก้านช่อยาวประมาณ 3.5 เซนติเมตร ที่ก้านช่อมี จุดสีม่วงกระจายก้านช่อก้านหนึ่ง ๆ มีดอกเพียงดอกเดียว กลีบบนสีม่วง ตั้งตรง ยาวประมาณ 1.8 เซนติเมตร กว้าง 0.6 เซนติเมตร ขอบของกลีบนอกบนไม่มีขนกลีบนอก คู่ล่างยาว 2.5 เซนติเมตร ขอบบนของกลีบนอกคู่ล่าง ทั้งสองกลีบบิดเข้าหากัน กลีบนอกคู่ล่างสีเหลือง ประด้วยจุด สีแดงเลือดนกขนาดใหญ่ กลีบในมีลักษณะคล้าย ๆ กับกลีบ นอกบนทั้งขนาดและสี ปากยาว 1 เซนติเมตร สีม่วง ฐานของ ปากกว้าง ที่ขอบปากมีเส้นสีม่วงยาว ๆ | |
บัลโบฟิลลัม ไลลาซิมัน (Bulbophyllum lilacinum Ridl.) บัลโบฟิลลัม ไลลาซิมัน เป็นกล้วยไม้ไทยสกุลสิงห์โต กลอกตาที่ยังไม่มีชื่อในภาษาไทย พบอยู่ทางภาคใต้ของไทย เช่น ที่จังหวัดพังงา เหง้ามีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-4 มิลลิเมตร ลำลูกกล้วยอาจยาวถึง 6 เซนติเมตร รูปร่างค่อนข้าง เป็นรูปไข่เรียว ๆ เกือบเป็นสี่เหลี่ยม ผิวเรียบ ลำลูกกล้วยห่าง กันประมาณ 12 เซนติเมตร ใบอาจยาวถึง 27 เซนติเมตร กว้าง 3.5 เซนติเมตร ขอบใบทั้งสองข้างขนานกัน ปลายใบป้านค่อนข้างแหลม ฐานใบแคบก้านใบสั้น ลำลูกกล้วย มีใบหนึ่งใบก้านช่อยาว 5-10 เซนติเมตร มีกาบก้านช่อขนาด ใหญ่ 2-3 กาบ แกนช่อดอกอาจยาวถึง 15 เซนติเมตร ลักษณะห้อย ลง มีดอกหลายดอกเรียงซ้อนกันแนบติดไปกับแกนช่อดอก กลีบดอกไม่บานเต็มที่ กลีบนอกและกลีบในสีม่วงอ่อน ๆ เกือบขาวมีจุดสีม่วงกระจาย ปากสีเหลืองจัด มีประจุด หรือลายเส้นสีชมพูจาง ๆ กลีบนอกบนยาว 5.5 เซนติเมตร กว้าง 3 มิลลิเมตร โค้งคลุมเกสร กลีบนอกคู่ล่างขนานกัน มีความยาว 0.9-1.1 เซนติเมตร กว้าง 0.45 เซนติเมตร ขอบในของกลีบนอกคู่ล่างทั้งสองกลีบเชื่อมติดกันเป็นช่วงสั้น ๆ ที่ฐานของกลีบ ขอบนอกของกลีบนอกคู่ล่างมีไฝและลายเส้นเล็ก ๆ ยอกนูนขึ้น กลีบนอกทุกกลีบโค้งตรงบริเวณใกล้ฐานของกลีบ เส้าเกสรมีปีกแหลมสั้น ๆ ยกตั้งตรงบัลโบฟิลลัม ไลลาซิมัน จะออกดอกในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม | |
สิงห์โตก้ามปูแดง (Bulbophyllum patens King ex. Hook. f.) สิงห์โตก้ามปูแดงเป็นกล้วยไม้ที่มีลักษณะแปลก อย่างหนึ่ง คือเมื่อดอกบาน ดอกมักจะกลับเอาหัวลง สิงห์โตก้ามปูแดงมีถิ่นกำเนิดอยู่ในป่าทางภาคใต้ของไทย เช่น ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง นราธิวาส ปัตตานี ฤดูดอกบาน ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เหง้าของสิงห์โตก้านปูแดงมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มิลลิเมตร กาบที่เหง้าแลเห็นได้ชัด ลำลูกกล้วยยาว 0.6-2.5 เซนติเมตร ลำลูกกล้วยแต่ละลำห่างกันประมาณ 8 เซนติเมตร หรือต่ำกว่านั้น ลำลูกกล้วย 1 ลำมีใบ 1 ใบ ใบมีขนาดยาว ประมาณ 14 เซนติเมตร กว้าง 4.5 เซนติเมตรเมื่อเวลาดอกบาน กลีบดอกจะบานผึ่งเต็มที่ พื้นดอกเป็นสีเหลืองจาง ๆ มีจุดเล็ก ๆ สีม่วงกระจายอย่างหนาแน่นทั่วทั้งดอก จึงดูคล้ายกับว่า ดอกมีสีแดงคล้ำ กลีบนอกบนยาวประมาณ 2.2 เซนติเมตร กว้าง 0.6 เซนติเมตร กลีบนอกคู่ล่างกว้างกว่ากลีบนอกบน ปากสดใส ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร มีจุดเล็กละเอียดสีม่วง กระจาย ก้านดอกรวมทั้งรังไข่ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร |
กล้วยไม้ Orchid กล้วยไม้ (Orchid) เป็นพืชวงศ์ใหญ่ที่มีดอกสวยงาม มีความหลากหลายทั้งสีสันลวดลาย ขนาด รูปทรง และกลิ่น เรียกได้ว่าเป็นพืชดอกที่มีความหลากหลายมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง มีมากกว่า 800 สกุล พบในธรรมชาติมากกว่าสองหมื่นชนิด ด้วยความสวยงามและความหลากหลายทำให้กล้วยไม้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก มีการปรับปรุงสายพันธุ์โดยการผสมข้ามชนิดข้ามสกุลมากกว่าสามหมื่นคู่ผสม ทำให้กล้วยไม้มีความสวยงามและหลากหลายมากยิ่งขึ้น
วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
กล้วยไม้สกุลสิงโตกลอกตา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น